ซะกาตฟิตเราะห์ ประเภทของซะกาต แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือซะกาตอาหารและซะกาตทรัพย์สิน ซะกาตอาหารภาษาอาหรับเรียกว่า "ซะกาตฟิตเราะห์ ซะกาตฟิฏรฺ หรือ ซะกาตฟิฏเราะฮฺ หมายถึง การบริจาคทานที่ถูกกำหนดให้มุสลิมทุกคนต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ เพศชายหรือหญิง ไทหรือทาส อันเนื่องจากการสิ้นสุดของการถือศีลอดเดือนรอมฎอน เพื่อเป็นการขัดเกลาผู้ถือศีลอดให้สะอาดบริสุทธิ์จากความหลงลืมและการพูดที่โสมม มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า " เศาะดะเกาะฮฺ ฟิฏเราะฮฺ " ความประเสริฐของการจ่ายซะกาต 1. อัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลาได้กล่าวว่า ความว่า " แท้จริงบรรดาผู้ที่ศรัทธา และประกอบสิ่งที่ดีทั้งหลาย และดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและจ่ายซะกาตนั้น พวกเขาจะได้รับรางวัลของพวกเขา ณ พระเจ้าของพวกเขา และไม่มีความกลัวอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้นแก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็ไม่เสียใจ " ( อัลบะเกาะรอฮฺ: 277) 2.
1993, Fiqh al-Zakah. Berut: al-Risalah. p: 37) อิบนิ ตัยมีนะห์ กล่าวว่า "จิตใจของผู้บริจาคบริสุทธิ์สะอาดและทรัพย์ของเขางอกเงย" (Ibn Taimiah, Muhammad. 1967. Majmua Fatawa. USA: The Geramon Press.
ได้ที่นี่เลย! !
0 ต้นฉบับ.
โลหะเงินและทองคำ เงินสด เงินในบัญชี หุ้น สินค้า (ของตนเองไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรืออัญมณี) ที่มีไว้ขายทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นนำมาฝากขายหากมีมูลค่าเท่าราคาทองคำ หนัก 85 กรัม หรือประมาณ 5. 66 บาท (ทองคำหนึ่งบาทหนัก 15 กรัม) เมื่อครบรอบปีก็จะต้องจ่ายซะกาต 2. 5% จากทรัพย์สินเหล่านี้ 2. ผลผลิตจากการเกษตร หากเป็นผลผลิตที่เกิดจากการใช้ชลประทาน ที่ต้องลงทุนอัตราซะกาต คือ 5% หากไม่ใช้การชลประทานและอาศัยน้ำฝนอย่างเดี่ยว อัตราซะกาต คือ10% 3. ปศุสัตว์ เช่น แพะ แกะ วัว ความ อูฐ เป็นต้น 4. ขุมทรัพย์ที่พบได้ในแผนดิน ระยะเวลาของการจ่ายชะกาต การเริ่มต้นปีซะกาตนั้นเริ่มต้นในวันคนผู้นั้นจ่ายซะกาตเป็นครั้งแรก นั้นคือ วันที่คนผู้นั้นมีทรัพย์สินครบพิกัดอัตราที่ศาสนากำหนดไว้ หลักจากนั้น เมื่อครบปีจันทร์คติซึ่งมี 354 วัน หากยังมีทรัพย์สินอยู่อีกก็จะต้องจ่ายอีกตามกัมวิธีเดิม เพราะซะกาตนั้นคิดจากทรัพย์สินที่ออมไว้ ไม่ใช่คิดจากรายได้สะสมไว้มาเท่าใด ก็ต้องจ่ายมากขึ้นเท่านั้นนี้คือความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ทุกคนเรียกร้องมาตลอดทุกยุคทุกสมัย บุคคลที่มรสิทธิรับบริจาคชะกาตมีด้วยกัน 8 ประเภท ได้แก่ 1. คนยากจน 2.
อารยธรรมที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและเปิดกว้าง กล่าวคืออารยธรรมอิสลามมิได้ปิดตัวเอง ทว่าเป็นอารยธรรมที่ยืดหยุ่น มีทั้งการให้และการรับ อารยธรรมอิสลามได้ให้เกียรติต่อมรดกของกลุ่มกราบไหว้รูปปั้น ในวิชาและศิลปะแขนงต่างๆ และไม่ได้ยึดติดอยู่กับมรดกเหล่านั้นเพียงแต่วัตถุเหมือนกับการกระทำของบาทหลวงของคริสในช่วงแรกของสมัยกลาง อารยธรรมอิสลามเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ที่มีอยู่ในมรดกของอารยธรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อารยธรรมของกรีก เปอร์เซีย อินเดียและอารยธรรมอื่น ๆ ในขณะเดียวกันอารยธรรมอิสลามมีจุดยืนที่ประนีประนอมต่อ อารยธรรมของยิว และคริสเตียน 4.
คนเดินทาง ผู้อพยพ ผู้พลัดถิ่น ที่ต้องการความช่วยเหลือ กฎบัญญัติที่เกี่ยวข้อง [ แก้] ฆอนีมะหฺ ฟัยอุ อ้างอิง [ แก้] ↑ Salehi, M (2014). "A Study on the Influences of Islamic Values on Iranian Accounting Practice and Development". Journal of Islamic Economics, Banking and Finance. 10 (2): 154–182. doi: 10. 12816/0025175. Zakat is a religious tax that every Muslim has to pay. ↑ Lessy, Z (2009). "Zakat (alms-giving) management in Indonesia: Whose job should it be? ". La Riba Journal Ekonomi Islam. 3 (1). zakat is alms-giving and religiously obligatory tax. ↑ กุรอ่าน 9:60 แหล่งข้อมูลอื่น [ แก้] อิสลาม: เพื่อความเข้าใจอิสลาม และมุสลิม Archived 2009-10-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
5% ของราคาทองคำ เงินหนัก 595 กรัม ไม่ว่าจะเป็นเงินรูปพรรณ เงินแท่ง หรือเหรียญเงินบริสุทธิ์ จ่ายซะกาต 2. 5% ของราคาเงิน เงินมาตราใดก็ตามเก็บไว้ที่บ้านหรือในธนาคาร มีค่าเท่ากับเงินบริสุทธิ์ 595 กรัม ต้องจ่ายซะกาต 2. 5% ของจำนวนเงิน มีสมบัติเป็นสินค้าในคลัง มีค่าเท่ากับเงินบริสุทธิ์ 595 กรัม ต้องจ่ายซะกาต 2.