แมลงหวี่ขาว แมลงหวี่ขาวเป็นแมลงศัตรูพืชของพืชหลายชนิด ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม พบบ่อยใต้ใบพืช และยอดอ่อน ไม่ชอบฝน สามารถเข้าทำลายได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะระยะต้นอ่อนแมลงหวี่ขาวจะชอบมากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงที่พืชอ่อนแอที่สุดเช่นกัน จึงควรระวังเป็นพิเศษ ซึ่ง ทางร้านเกษตรสมบูรณ์ ได้รวบรวมความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับ แมลงหวี่ขาว เอาไว้ที่นี่ทั้งหมดแล้ว เพียงท่าน เข้าใจ และแก้ปัญหาอย่างเป็นเหตุ เป็นผล ท่านก็จะทราบด้วยตัวเองว่า แมลงหวี่ขาว ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ท่านคิด! ตัวเต็มวัย มี 2 ปีก ตาสีแดง ตัวสีขาว ปีกคลุมด้วยฝุ่นขาว ขนาดเล็กประมาณ 1-2 มม. ดักแด้ ของแมลงหวี่ขาว หรือตัวอ่อนระยะที่ 4 ตัวอ่อน รูปร่างคล้ายโล่ ซึ่งจะมี 3 ระยะ คือ ตัวอ่อนระยะที่ 1, ตัวอ่อนระยะที่ 2 และตัวอ่อนระยะที่ 3 ไข่ จะอยู่ติดกันเป็นกลุ่ม สีเหลืองอ่อน ตัวเมียสามารถวางไข่ได้มากถึง 300 ฟอง/ตัว วงจรชีวิตของแมลงหวี่ขาว การระบาดของแมลงหวี่ขาว ระบาดได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงแล้ง หรือฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ปล.
7 แสนล้านบาทในปี 2030 เพิ่มขึ้นจาก 3.
กรมวิชาการเกษตร query_builder 31 มีนาคม 2563 remove_red_eye - สภาพอากาศร้อนตลอดวัน และมีแดดแรงในระยะนี้ กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกพริกให้เฝ้าระวังการระบาดของเพลี้ยอ่อน และแมลงหวี่ขาว มักพบการเข้าทำลายในระยะเก็บเกี่ยวผลผลิตพริก สำหรับเพลี้ยอ่อน จะพบตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบและยอด ทำให้ใบและยอดอ่อนหงิกงอ บิดเบี้ยวเป็นคลื่น ส่งผลทำให้ต้นพริกชะงักการเจริญเติบโต และยังเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคใบด่างในพริก ซึ่งจะระบาดในช่วงอากาศแห้งแล้ง. เกษตรกรควรใช้วิธีเขตกรรมในการกำจัดวัชพืชในแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก หากพบเพลี้ยอ่อนมีความหนาแน่น 10-20 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ใบทั้งต้นจากจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ของต้นทั้งหมด ให้พ่นด้วยสารฆ่าแมลงอิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารไดโนทีฟูแรน 10% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟิโพรนิล 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารอีโทเฟนพร็อกซ์ 20% อีซี อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และควรพ่นสารอย่างใดอย่างหนึ่ง. ในส่วนของแมลงหวี่ขาว มักพบตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อน และยังเป็นพาหะนำโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ทำให้ใบพริกหงิกซีดด่าง หรือใบหงิกเหลือง ยอดไม่เจริญ และต้นพริกไม่สมบูรณ์ ผลพริกที่ได้ไม่มีคุณภาพ หากพบให้ใช้สารฆ่าแมลงใช้สารฆ่าแมลงอิมิดาโคลพริด 10% เอสแอล อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟิโพรนิล 5% เอสซี อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร โดยสามารถพ่นซ้ำ ได้ตามการระบาด
แมลงหวี่ขาว แมลงหวี่ขาวเป็นแมลงศัตรูพืชของพืชหลายชนิด ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม พบบ่อยใต้ใบพืช และยอดอ่อน ไม่ชอบฝน สามารถเข้าทำลายได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะระยะต้นอ่อนแมลงหวี่ขาวจะชอบมากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงที่พืชอ่อนแอที่สุดเช่นกัน จึงควรระวังเป็นพิเศษ ซึ่ง ทางร้านเกษตรสมบูรณ์ ได้รวบรวมความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับ แมลงหวี่ขาว เอาไว้ที่นี่ทั้งหมดแล้ว เพียงท่าน เข้าใจ และแก้ปัญหาอย่างเป็นเหตุ เป็นผล ท่านก็จะทราบด้วยตัวเองว่า แมลงหวี่ขาว ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ท่านคิด! ตัวเต็มวัย มี 2 ปีก ตาสีแดง ตัวสีขาว ปีกคลุมด้วยฝุ่นขาว ขนาดเล็กประมาณ 1-2 มม. ดักแด้ ของแมลงหวี่ขาว หรือตัวอ่อนระยะที่ 4 ตัวอ่อน รูปร่างคล้ายโล่ ซึ่งจะมี 3 ระยะ คือ ตัวอ่อนระยะที่ 1, ตัวอ่อนระยะที่ 2 และตัวอ่อนระยะที่ 3 ไข่ จะอยู่ติดกันเป็นกลุ่ม สีเหลืองอ่อน ตัวเมียสามารถวางไข่ได้มากถึง 300 ฟอง/ตัว วงจรชีวิตของแมลงหวี่ขาว การระบาดของแมลงหวี่ขาว ระบาดได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงแล้ง หรือฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ปล.
ระยะตัวเต็มวัย เมื่ออวัยวะต่างๆ พัฒนาจนสมบูรณ์แล้ว แมลงก็จะออกมาจากคราบดักแด้ทางปลายด้านหน้า แมลงที่ออกมาใหม่ๆ ลำตัวจะมีสีอ่อน ปีกยังไม่แผ่ และส่วนท้องค่อนข้างยาว เมื่อโตเต็มที่ลำตัวจะมีสีน้ำตาลหรือสีดำ ปีกใส ส่วนท้องมีลายคาดสีดำ ตามีสีแดงส้ม แมลงหวี่สามารถพร้อมผสมพันธุ์หลังออกจากดักแด้แล้ว 10 ชั่วโมง แมลงหวี่ตัวเมียจะวางไข่หลังจากออกจากดักแด้ 2 วัน โดยตัวเมียสามารถวางไข่ได้ 700 ใบ ในช่วงอายุขัย แมลงหวี่มีอายุขัยประมาณ 4 สัปดาห์ แมลงตัวเมียสามารถผสมพันธุ์กับตัวผู้ได้มากกว่า 1 ตัว และสามารถเก็บน้ำเชื้อที่ได้จากการผสมหลายๆครั้งได้