ศึกษาข้อมูลการลงทุน
เป้าหมายการลงทุน ควรเป็นเป้าหมายระยะยาวเป็นหลัก เช่น เพื่อการเกษียณอายุ เพื่อบรรลุอิสรภาพทางการเงิน เป็นต้น เพราะราคาหุ้นมีความผันผวนมากในระยะสั้น อาจมีการขึ้นลงของราคาได้จากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกของบริษัท แต่ระยะยาวถ้าเป็นธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ธุรกิจจะมีกำไรเติบโตไปตามภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ที่สุดแล้วราคาหุ้นจะปรับตัวไปตามผลประกอบการ ซึ่งมีโอกาสเป็นขาขึ้นมากกว่า 2. เงินที่นำมาลงทุนควรเป็นเงินเย็น หมายความว่า สามารถทิ้งไว้ได้ 7 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องถอนมาใช้ เพราะหากเป็นเงินที่ต้องใช้สำหรับเป้าหมายระยะสั้น อาจทำให้ต้องขายหุ้นก่อนเวลาอันสมควร ทำให้เสียโอกาสในการทำกำไร 3. เลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะสม เช่น หากเป็นคนที่ไม่มีเวลาติดตามหุ้นมาก อาจใช้วิธีลงทุนเท่ากันทุกเดือน (Dollar Cost Averaging: DCA) เพื่อลดโอกาสการลงทุนผิดพลาดจากการจับจังหวะลงทุน แต่ถ้ามีเวลาและความรู้มากพอ อาจรอซื้อในจังหวะที่ราคาหุ้นของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งปรับลดลงชั่วคราว 4. การบริหารพอร์ตโดยทำ Asset Allocation เป็นเรื่องสำคัญ ควรมีการติดตามตรวจสอบสม่ำเสมอว่าสัดส่วนในการลงทุนในหุ้นคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุนรวม หากราคาหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นทำให้สัดส่วนการลงทุนในหุ้นของพอร์ตสูงเกินที่กำหนด ควรขายทำกำไร เพื่อรักษาสัดส่วนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของตัวเราเอง 5.
ถ้านิยาม "ลงทุน" มันมีแค่ว่า เอาเงินไปลง มีได้มีเสีย มีทางได้เงินเพิ่มแบบสบาย ไม่รู้ที่มาที่ไป อธิบายไม่ชัดแบบนั้น มันอาจไม่ต้องไปทำเทคโนโลยีอะไรซับซ้อนเลย เราอนุญาตให้เปิดบ่อนพนัน ตรงไปตรงมาจะเป็นทางเลือกเปรียบเทียบได้หรือไม่ นิยามของคำว่า "การลงทุน" มันน่าจะ... คือการจัดสรรทรัพยากร เพื่อส่งต่อเงินทุนไปยังผู้ประกอบการ หรือผู้ผลิตที่จะสร้าง productivity สูงสุด มันน่าจะเป็นการจัดสรรทรัพยากร (resource allocation) ว่าใครควรจะได้ทุน มีการจ้างคน ได้ปัจจัยการผลิตไป เพื่อให้สร้าง productivity สูงสุดในระบบเศรษฐกิจไม่ใช่หรือ 3.
สมมติว่า เราเริ่มต้นทำงานตอนอายุ 25 ปี และอยากเกษียณอายุในช่วงไม่เกิน 55 ปี นั่นแปลว่าเรามีเวลาทำงานทั้งหมด 30 ปี แต่เราต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 25 ปี ไปจนถึงอายุประมาณ 85 ปีตามค่าเฉลี่ยอายุของคนไทย เท่ากับเราต้องมีเงินเลี้ยงตัวเองทั้งหมด 60 ปีตั้งแต่เริ่มทำงานไปจนถึงเสียชีวิต ก่อนจะเริ่มคิดว่า จะลงทุนอะไรดีหลังเกษียณ เรามาดูกันก่อนว่า เราสามารถทำงาน 1 เดือนเพื่อเลี้ยงตัวเอง 2 เดือนได้จริงๆ หรือเปล่า? เพราะนี่เท่ากับว่า เราต้องออมเงินเดือนเอาไว้อย่างน้อย 50% ของรายได้ ถึงจะอยู่สบายในช่วงบั้นปลายชีวิตนั่นเอง!
บางคนมักจะคิดว่าการ "ลงทุน" เป็นเรื่องยากและเป็นเรื่องไกลตัวจนไม่เริ่มลงทุนสักที แต่ก็มีบางคนก็เริ่มที่จะเห็นถึงความสำคัญและเริ่มสนใจลงทุนบ้างแล้วเพราะตระหนักได้ว่าความแน่นอนคือความไม่ แม้มีรายได้ประจำ แต่ก็อยากจะมีเงินออมและเงินได้ผ่านการลงทุนอีกช่องทางหนึ่ง แต่ติดปัญหาที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกไม่รู้ว่าควรจะลงทุนแบบไหนดี? หรือต้องเริ่มต้นจากอะไรก่อน มีแต่คำถามๆๆ มากมายเต็มหัวไปหมดดเลยไม่ได้ลงทุนซักกะทีเนี่ยล่ะ ก่อนอื่นเลยพี่ทุยอยากถามใจตัวเองซะก่อนนะว่า เรานั้นมีเป้าหมายการลงทุนคืออะไร? ยอมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน? ต้องการใช้เงินประมาณเท่าไหร่? และต้องการบรรลุเป้าหมายในอีกเดือน หรือกี่ปีข้างหน้า? แล้วค่อยตัดสินใจว่าตัวเองเหมาะสมที่จะลงทุนกับสินค้าทางการเงินแบบไหนดี แต่ถ้าใครเพิ่งจะเริ่มต้นสนใจและอยากจะลงทุนแล้วล่ะก็ พี่ทุยมักจะแนะนำว่าให้ลองมาเริ่มต้นศึกษาที่ "กองทุนรวม" ก่อนเสมอ มาถึงตรงนี้คงมีบางคนสงสัยกันล่ะสินะว่าทำไมต้องเป็นกองทุนรวมล่ะพี่ทุย?
ดังนั้นใครที่ยังไม่คิดจะเริ่มลงทุนพี่ทุยแนะนำว่าให้เริ่มตอนนี้! เดี๋ยวนี้! เอ้าลุยยยยยย!! รูปบน ของ desktop รูปล่าง ของ mobile